การทำธุรกิจครอบครัว เพิ่มโอกาสในการก่อร่างสร้างตัวได้

การทำธุรกิจที่ใช้ลักษณะการบริหารและจัดตั้งในรูปแบบครอบครัวนั้นเป็นวิธีการทำธุรกิจที่ได้รับความนิยมกันอย่างมาก เพราะการทำธุรกิจในรูปแบบที่ดำเนินการทุกอย่างด้วยตนเองทั้งหมดค่อนข้างมากซึ่งธุรกิจที่ดำเนินการบุกเบิกด้วยตนเองทั้งหมดมีโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดได้ค่อนข้างสูง ฉะนั้นการทำธุรกิจครอบครัวจึงเป็นรูปแบบที่ยึดครองหัวใจของผู้ประกอบการหลายคนซึ่งการทำธุรกิจในรูปแบบครอบครัวนี้มีข้อดีด้วยกัน คือ
1.ได้ความร่วมมืออย่างเต็มที่จากทุกฝ่าย ซึ่งผู้ประกอบการอาจจะหาไม่ได้เลยหากต้องไปจัดตั้งธุรกิจในรูปแบบอื่นๆ
2.ทำงานแบบใจถึงใจการมอบหมายงานในเรื่องต่างๆจึงสามารถทำได้ง่ายและเข้าใจรวดเร็วกว่าการมอบหมายงานผ่านพนักงานที่เป็นคนนอก
3.มีทางเลือกในการแก้ไขปัญหาที่หลากหลายซึ่งการทำธุรกิจในลักษณะครอบครัวนั้นแน่นอนว่าทุกคนในบริษัทต่างก็มีที่มาจากต้นตระกูลเดียวกัน ความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาจึงมีทางออกมากขึ้นกว่าเดิมเป็นพิเศษ
4.มีวัฒนธรรมในองค์กรเฉพาะตัวเพราะทุกคนจะรู้หน้าที่และมารยาทของการทำงานในหน้าที่ของตนว่าควรที่จะอยู่ซึ่งข้อดีตรงนี้ส่งผลให้การดำเนินงานของบริษัทมีประสิทธิภาพและใช้เวลาในการทำงานน้อยลงอีกด้วย
5.ความลับบริษัทไม่มีวันรั่วไหลเนื่องจากการทำธุรกิจถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนภายในบริษัทจะต้องช่วยกันเก็บรักษาเอาไว้ไม่ให้เรื่องรั่วไหลออกไปสู่ภายยนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการรั่วไปอยู่ในมือของคู่แข่งซึ่งถือเป็นเรื่องที่อันตรายมากที่สุด
6.เงินทองไม่รั่วไหลเนื่องมาจากผู้บริหารพนักงานต่างก็เป็นญาติหรือบุคคลภายในครอบครัวด้วยกัน จึงเป็นไปได้ยากที่เงินทองจะรั่วไหลออกไปสู่ภายนอกโดยที่ผู้ประกอบการไม่รู้ตัวจึงสบายใจได้ในว่าทรัพย์สินจะไม่หายไปไหน เพราะสุดท้ายแล้วมันก็ยังหมุนเวียนอยู่ในบริษัท

ดังนั้นการทำธุรกิจครอบครัวนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเตรียมพร้อมและปรับตัวเพื่อรับความท้าทายหากต้องการอยู่รอดและเติบโตอย่างยั่งยืน ท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงของกติกาการค้าที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ผู้ที่ต้องการจะเริ่มทำธุรกิจครอบครัวควรจะมีความรู้ ความสามารถในด้านนี้มาโดยตรง เพื่อที่จะสามารถต่อยอดทางธุรกิจให้เจริญเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน