มีหลายท่านที่มีความกังวลไม่น้อยเลยค่ะ ว่าจะแต่งงานแล้วจะเลือกแหวนแต่งงานอย่างไรดี และยิ่งเป็นแหวนแต่งงานที่เป็นแหวนเพชรแล้วละก็ ก็จะยิ่งมีความกังวลกันมาก อาจจะกลัวโดนหลอกซื้อแหวนเพชรปลอมบ้างล่ะ ราคาแพงเกินจริงบ้างล่ะ โอ๊ยเยอะแยะไปหมดใช่ไหมค่ะ อย่ากังวลไปเลยค่ะ วันนี้เรามีการวิธีเลือกซื้อแหวนแต่งงานที่ง่ายกว่าที่คุณคิด ไปดูกันเลยจร้า
- ความสะอาด (Clarity) และสีของเพชร (Color)
เพชรทุกเม็ด มองข้างนอกเหมือนกัน แต่ถ้าดูให้ดี จริงๆ แล้วจะต่างกันพอสมควร โดยเพชรหนึ่งเม็ดจะมีค่าความสะอาด และสีที่ต่างกัน ซึ่งถ้าเรารู้จัก 2 ค่านี้ ก็อ่านใบ Certify ได้สบายๆ เลยแหล่ะ
ความสะอาด : หมายถึงตำหนิที่อยู่ในเพชร ซึ่งทุกเม็ดก็มีตำหนิอยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมชาติ ซึ่งไล่จากสะอาดมากไปน้อยคือ IF, VVS, VS, SI และ I
ค่าความสะอาดที่แนะนำ คือตั้งแต่ VS ขึ้นไป เพราะถ้าต่ำกว่านี้จะเริ่มมองเห็นตำหนิได้ บางอันใช้ตาเปล่ายังมองเห็นตำหนิเลย
สีของเพชร : ยิ่งมากยิ่งดี เริ่มจากตัว D (น้ำ 100 ใสมาก) ไปจนถึงตัว Z (เพชรจะออกสีเหลืองๆ)
ค่าสีของเพชรที่แนะนำ คือตั้งแต่ H ขึ้นไป เพราะถ้าต่ำกว่านี้จะเห็นเพชรเป็นสีออกเหลือง ถ่ายรูปมาไม่สวยนะจ๊ะ
- ขอดูเลขบนเพชร กับใบ CERTIFY ว่าตรงกันไหม
เมื่อเพชรทุกเม็ดมีใบเซอร์ นั่นหมายความว่าเราควรจะต้องเช็คให้ชัวร์ว่า เพชรที่เราซื้อ กับใบเซอร์ที่ได้จะต้องตรงกันด้วย
ซึ่งก็มีเหมือนกัน ที่บางร้านเจ้าเล่ห์ เอาใบเซอร์ดีๆ มาให้เรา แต่ตัวเพชรคุณภาพต่ำกว่าจริง คือหลอกขายเอากำไรเยอะๆ นั่นแหล่ะ
วิธีเช็คก็ไม่ยากเลย แค่ขอให้ร้านเอากล้องส่องไปที่เพชร เพื่อขอเช็คหมายเลข (ซึ่งทุกร้านควรมีบริการนี้อยู่แล้ว ร้านไหนไม่ให้เราเช็ค ตั้งข้อสงสัยแล้วเดินหนีออกมาก่อนเลย 555)
สุดท้ายก็ดูว่าเลขบนเพชร กับในใบเซอร์ตรงกันรึเปล่า แค่นี้ก็เสร็จพิธี
- เลือกร้านที่เชื่อใจได้
สุดท้ายเนื่องจากร้านขายเพชรก็มีเยอะเต็มห้าง แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าร้านไหนดีหรือไม่ดีจริง ? ซึ่งข้อสังเกตที่น่าจะพอช่วยในการเลือกร้านเพชรได้มีดังนี้
ร้านมีชื่อเสียง มีลูกค้าที่เราพอรู้จัก หรือมีลูกค้าเป็นดาราเซเล็บบ้าง
เปิดให้บริการมานาน แนะนำควรเปิดมานานกว่า 10 ปีขึ้นไป
แนะนำเพชรที่มีใบ Certify มีการรับรองที่ถูกต้อง
มีบริการหลังการขายที่ดี รับรองคุณภาพของตัวเรือน แหวนไม่พอดีปรับขนาดให้ ขัดตัวเรือนให้ ถ้าร้านไหนคิดค่าบริการเพิ่ม ก็ต้องจดไว้ด้วย ถือเป็นราคาที่เพิ่ม