การลงมือประกอบธุรกิจที่ใช้ลักษณะการบริหารและจัดตั้งในรูปแบบครอบครัวนั้น ถือว่าเป็นวิธีการทำธุรกิจที่ได้รับความนิยมกันมายาวนาน เพราะมีจุดเริ่มต้นที่คุ้มค่าและต้นทุนต่ำกว่าการทำธุรกิจในรูปแบบที่ดำเนินการทุกอย่างด้วยตนเองทั้งหมดค่อนข้างมาก ซึ่งธุรกิจที่ดำเนินการบุกเบิกด้วยตนเองทั้งหมดมีโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดได้ค่อนข้างสูงและเมื่อเกิดปัญหาขึ้นทางเลือกที่ใช้ในการแก้ปัญหาก็มีค่อนข้างน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับการทำธุรกิจรูปแบบครอบครัว
ด้วยเหตุนี้การทำธุรกิจในลักษณะของกิจการที่เป็นของครอบครัวจึงเป็นรูปแบบที่ยึดครองหัวใจของผู้ประกอบการหลายคน และมักจะเป็นตัวเลือกของความมั่นคงในชีวิตอันดับแรกๆที่ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวมักจะนำมาส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นถึงสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆเพื่อสืบทอดต่อกันไป ซึ่งการทำธุรกิจในรูปแบบครอบครัวนี้มีทั่งข้อดีจะขอนำเสนอข้อดีก่อนเป็นอย่างแรก ซึ่งข้อดีของธุรกิจแบบครอบครัวนั้นมีดังนี้
ได้ความร่วมมืออย่างเต็มที่จากทุกฝ่าย
เป็นข้อดีที่ผู้ประกอบการอาจจะหาไม่ได้เลยหากต้องไปจัดตั้งธุรกิจในรูปแบบอื่นๆที่ความก้าวหน้าของธุรกิจต้องไปฝากเอาไว้ที่ลมหายใจของคนอื่นในลักษณะของเจ้านายกับลูกน้อง ซึ่งบางครั้งลูกน้องที่อยู่ใต้การบังคับบัญชาของท่านอาจจะไม่ยอมลงแรงเต็มร้อยเพราะพวกเขาคิดว่าความสำเร็จไม่ได้มีส่วนทำให้ชีวิตของเขาดีขึ้น แต่ปัญหาลักษณะนี้จะเกิดขึ้นกับธุรกิจที่ดำเนินการในรูปแบบของครอบครัวน้อยกว่า เพราะด้วยรูปแบบของธุรกิจครอบครัวก็บ่งบอกด้วยตัวมันเองอยู่แล้วว่าสมาชิกทุกคนของครอบครัวมีส่วนร่วมและมีความเป็นเจ้าของในอัตราที่อย่างน้อยก็เท่าๆกัน สำนึกในความเป็นเจ้าของจึงเกิดและจะเป็นสิ่งนำพาให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวทำหน้าที่ที่ตนเองได้รับมอบหมายอย่างดีที่สุด เพื่อความสำเร็จของธุรกิจที่ทุกคนต่างมีจุดร่วมเดียวกันในอนาคตนั่นเอง
ทำงานแบบใจถึงใจ
เพราะความที่ผู้บริหารและสมาชิกต่างเป็นบุคคลในครอบครัวเดียวกัน การมอบหมายงานในเรื่องต่างๆจึงสามารถทำได้ง่ายและเข้าใจรวดเร็วกว่าการมอบหมายงานผ่านพนักงานที่เป็นคนนอก อีกทั้งผลงานที่ปรากฎออกมาจะมีคุณภาพดีกว่าด้วยในระดับหนึ่ง อันเป็นผลมาจากการทุ่มเททำงานหนักของสมาชิกในครอบครัวผู้เป็นทั้งพนักงานและเจ้าของร่วมในคราวเดียวกัน
มีทางเลือกในการแก้ไขปัญหาที่หลากหลาย
ปัญหาถือเป็นเรื่องปกติในการทำธุรกิจแต่ประเด็นที่สำคัญกว่าก็คือการแสวงหาทางออกให้กับปัญหา ซึ่งการทำธุรกิจในลักษณะครอบครัวนั้นแน่นอนว่าทุกคนในบริษัทต่างก็มีที่มาจากต้นตระกูลเดียวกัน ความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาจึงมีทางออกมากขึ้นกว่าเดิมเป็นพิเศษ เพราะทุกคนต่างมุ่งแสวงหาทางออกที่ดีที่สุดเพราะทุกคนต่างก็มีสามัญสำนึกถึงความมีส่วนร่วมในองค์กร ความช่วยเหลือจึงหลั่งไหลมาจากทั่วทุกสารทิศภายในบริษัท
มีวัฒนธรรมในองค์กรเฉพาะตัว
เพราะความที่คณะผู้บริหารหรือพนักงานฝ่ายอื่นๆในบริษัทต่างเป็นคนคุ้นเคยกันทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้วัฒนธรรมการทำงานในองค์กรจึงเกิดขึ้นโดยปริยายซึ่งมันก็ถือเป็นผลดีต่อการทำงานในบริษัทด้วย เพราะทุกคนจะรู้หน้าที่และมารยาทของการทำงานในหน้าที่ของตนว่าควรที่จะอยู่ ณ จุดไหนจึงจะเหมาะสม อีกทั้งการว่ากล่าวตักเตือนเมื่อทำงานผิดพลาดก็สามารถกระทำได้โดยง่ายกว่า ทั้งผู้บริหารในระดับบนขององค์กรสามารถลงมาบังคับบัญชาลูกน้องได้ด้วยตนเอง ซึ่งข้อดีตรงนี้ส่งผลให้การดำเนินงานของบริษัทมีประสิทธิภาพและใช้เวลาในการทำงานน้อยลงอีกด้วย
ความลับบริษัทไม่มีวันรั่วไหล
ผู้ประกอบการทุกคนต่างรู้ดีว่าความลับในการทำธุรกิจถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนภายในบริษัทจะต้องช่วยกันเก็บรักษาเอาไว้ไม่ให้เรื่องรั่วไหลออกไปสู่ภายยนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการรั่วไปอยู่ในมือของคู่แข่งซึ่งถือเป็นเรื่องที่อันตรายมากที่สุด แต่ถ้าหากผู้ประกอบการเลือกวิธีทำธุรกิจในลักษณะครอบครัวปัญหาก็จะมีโอกาสเกิดน้อยกว่า เพราะบุคคลในครอบครัวคือผู้ที่ผู้ประกอบการสามารถไว้วางใจและเชื่อได้ว่าพวกเขาจะไม่นำเอาความลับของบริษัทไปเปิดเผยสู่ภายนอกอย่างเด็ดขาดเพราะถือเป็นการบ่อนทำลายธุรกิจของครอบครัวตนเอง
เงินทองไม่รั่วไหล
ด้วยความที่ผู้บริหารหรือพนักงานต่างก็เป็นญาติมิตรหรือบุคคลภายในครอบครัวด้วยกัน จึงเป็นไปได้ยากที่เงินทองจะรั่วไหลออกไปสู่ภายนอกโดยที่ผู้ประกอบการไม่รู้ตัว ดังนั้นท่านจึงสบายใจได้ในว่าทรัพย์สินจะไม่หายไปไหน เพราะสุดท้ายแล้วมันก็ยังหมุนเวียนอยู่ในบริษัทไม่มีทางเปลี่ยนมือไปอยู่กับบุคคลนอกได้อย่างแน่นอน